มีท่านหนึ่งเขียนมาถามความเห็นของผมเกี่ยวกับการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ผมในฐานะพ่อนะครับ มองๆ อยู่เหมือนกันว่าจะเตรียมการให้ลูกอย่างไร วันนี้ก็เลยจะขอกล่าวถึงเรื่องนี้สักหน่อย เคยสิงสถิตย์อยู่ห้องไกลบ้านในพันทิพมาระยะหนึ่ง พยายามให้ข้อมูลคนที่อยากไปเรียนต่างประเทศ เฉพาะประเทศที่ตัวเองมีประสบการณ์คือประเทศอังกฤษ ผู้คนชอบเอามาเปรียบเทียบกัน ผู้เขียนจะไม่บอกว่าอเมริกาหรืออังกฤษดีกว่า เพราะจริงๆ มันดีคนละอย่างกัน ความจริงก็เคยศึกษาหาข้อมูลมาเยอะ จนพอจะรู้ว่าคนที่จะไปเรียนประเทศใหน คุณสมบัติของคนๆนั้น มันบอกได้มากกว่าครึ่ง เช่น คณะที่จะเรียน เงินที่จะใช้จ่าย สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับตัวเราเอง รวมทั้งทัศนคติที่มีต่อประเทศนั้นๆ ซึ่งหมายถึงการชมชอบขนมธรรมเนียมประเพณีต่างๆ ของประเทศดังกล่าว ทั้งหมดเป็นข้อมูลที่ควรไตร่ตรองและตัดสินใจด้วยตนเอง ไม่ควรฟังคนอื่นแล้วเอียงไปเอียงมา แต่ถ้าอยากจะไปอังกฤษใจจะขาดแต่คิดว่าขาดทุนทรัพย์ เลยตัดใจไปหาลุงแซม ก็ขอให้อ่านต่อได้เลยครับ
ค่าเล่าเรียนตามมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ จะคิดเป็นต่อปีการศึกษานะครับ ขึ้นอยู่กับแต่ละท้องถิ่น ชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ หรือความนิยม เมื่อหาค่าเล่าเรียนต่อปีได้แล้ว คูณด้วยค่าเงินบาทขณะนั้น (ที่อังกฤษ ปีหนึ่งมี 2 เทอม จ่ายค่าเทอมเป็นรายปี ดูของ Oversea Student นะครับ) ลองดูดีๆ จะพบว่าในแต่ละมหวิทยาลัยในต่างเมืองหรือไม่ดังมาก อาจจะมีค่าเทอมน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของมหาวิทยาลัยแพงๆ เลยก็เป็นได้ ถ้าคุณมาสายประหยัดก็อย่าเกี่ยงที่เรียนเลยครับ แต่ละเมืองเขาก็มีมหาวิทยาลัยที่เขาภาคภูมิใจไม่กี่แห่ง หากไม่ดีจริงไม่อยู่ถึงป่านนี้หรอกครับ (อันนี้พูดถึงมหาวิทยาลัยของรัฐนะครับ ไม่ใช่เอกชน) คำถามก็คือว่า อเมริกาที่หลายคนว่าถูกกว่าอังกฤษ ค่าเล่าเรียนปีหนึ่งตกเท่าใหร่ครับ ถ้าไปอยู่แถวเมืองใหญ่ๆ ชิคาโก นิวยอร์ค ผมว่า…อังกฤษก็อังกฤษเถอะ …
บางท่านอยากให้ลูกเป็นผู้ดีอังกฤษ ต้องอยู่ลอนดอน ลูกก็อ้อนพ่อแม่จะอยู่อพาร์ทเม้นต์ในโซน 1 ใกล้มหาวิทยาลัย กินนอกบ้านแทบทุกวันเพราะเกิดมาไม่เคยทำกับข้าวกินเอง แถมซื้อรถให้ลูกขับเพราะดีใจที่ซื้อถูกกว่าเมืองไทย(ภาษีน้อยกว่า แต่ค่าที่จอดรถรวมๆแล้วแพงพอๆกับค่ารถ) อย่างนี้ค่าใช้จ่ายบอกได้คำเดียวว่า ถ้าพ่อแม่ไม่รวยจริง ก็เตรียม Ship หาย กันไปข้างหนึ่ง หลายคนส่งลูกไปเรียนอังกฤษแล้วบ่นว่าแพงยับเยิน ประทานโทษ…คุณส่งลูกไปเรียนหรือไปเสวยสุขครับ ส่งไปเรียนไม่ใช่ส่งแล้วส่งเลย ลูกว่าอย่างไรก็ว่าตามลูก ทำเป็นไม่อยากรู้ จะเสียค่าโง่มากกว่าเท่าตัวนะครับ ก็ค่าเรียนมันบอกได้ชัดๆหาได้จากเว็บไซต์ ก่อนวันไปเรียนด้วยซ้ำ นอกนั้นเป็นค่าที่พักและกินอยู่ หากจับอยู่หอพักซะ ลอง ตรวจสอบค่าหอพักในแต่ละมหาวิทยาลัย หอพักที่เป็นของมหาวิทยาลัยนะครับ มีหลายแห่ง หลายราคา ค่าใช้จ่ายก็จะลดลงเห็นๆ เทียบกับเช่าเองข้างนอกที่เป็นของเอกชน ซึ่งจะแพงกว่า ทีนี้ก็เหลือแต่ค่ากินรายวันและค่าใช้จ่ายส่วนตัว ผู้ปกครองสักคนควรไปส่งตัวเข้ามหาวิทยาลัย ไปรู้ไปเห็นให้ลูกอุ่นใจและเราก็สบายใจด้วย แล้วก็พาเขาไปซื้อข้าวของเครื่องใช้เสียให้พอ จากนั้นก็เหลือแต่ค่ากินแต่ละวันล้วนๆ ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัวก็เบิกจ่ายได้ตามที่ตั้งไว้ในแต่ละช่วงเวลา ถ้าลูกท่านทำได้อย่างนี้รับประกันว่าไม่มีกระเป๋าแหกหรือมีจดหมายมาขอค่าใช้จ่ายแปลกๆบ่อยๆ เรื่องเลี้ยงลูกแบบรักมาก บางครั้งก็ต้องทำใจให้ได้เพราะจะเป็นบาปสีขาวไม่รู้ตัว เพื่อนผู้เขียนคนหนึ่งมีพ่อรวยระดับประเทศ ไปเยี่ยมบ้านเธอครั้งแรกเจอกำลังทาสีรั้วบ้านอยู่ รถคันแรกในชีวิตเป็นรถปิ๊กอัพทั้งๆที่เป็นผู้หญิงนะ
ถ้าฐานะที่บ้านคุณปานกลางขึ้นไปถึงรวยไม่มาก ก็อย่าไปอยู่ลอนดอน เมืองใหนก็ได้ที่ไม่ใช่ลอนดอน เลือกได้เกือบหมดทุกเมือง เชื่อใหมว่าค่าเล่าเรียนถูกกว่า และที่ถูกกว่ามากๆ คือค่าสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆถูกกว่าลอนดอนเกือบครึ่งนึง ประการสำคัญอย่าเข้าห้างฯ แบบหรูๆ ละกัน ที่นั่นร้านของถูกใหญ่ๆแบบคาร์ฟูร์มีเยอะ แถมร้านเล็กร้านน้อยในตลาดนัดต่างๆ ก็หาซื้อสิ่งของได้ถูกมากๆ บางทียังแปลกใจว่าถูกกว่าที่ประเทศไทยอีก พ่อแม่หลายคนกลัวลูกไปอยู่บ้านนอกแล้วจะไม่ปลอดภัย เดินทางไกล ไม่สะดวก อันนี้ไม่จริงนะครับท่าน หลายคนที่เคยไปประเทศอังกฤษแล้วจะรู้เลยว่า ไปตรงใหนของอังกฤษก็แทบจะเหมือนกันหมด
เขาอนุรักษ์ตึกอาคารเก่าๆในตัวเมือง ทุกอย่างมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ห้ามทุบแล้วสร้างใหม่ ดังนั้นไปชุมชนใหนมีร้าน Bodyshop มีร้าน Boots และร้านค้าคล้ายๆกันแทบทุกจุด ไม่นับใจกลางเมืองที่เป็นตึกใหญ่ๆนะ พูดถึงตลาดร้านค้าแถบชุมชนใหญ่ๆ ของแต่ละจุดของเมือง ยังกะแกะแบบอันเดียวกันออกมา แทบทุกเมืองนอกกรุงลอนดอนก็ไม่พ้นร้านค้าหน้าตาคล้ายๆกัน รถเมล์ก็คล้ายๆกัน ตำรวจก็แต่งตัวเหมือนกัน ชาวบ้านก็แต่งตัวเหมือนๆกัน ถนนก็เหมือนๆกัน
ที่ต่างกันบ้างคือ สำเนียงและ อุปนิสัยใจคอ สำเนียงลอนดอนถือว่าเป็นอังกฤษมาตรฐาน(ไม่นับคนแถบลอนดอนตะวันออกนะ ที่ออกแหวกแนวสุดๆ) ขึ้นเหนือไปก็เริ่มพูดเจ๊ากัน เอ๊ย…เริ่มเหน่อๆ ถ้าขึ้นไปถึง York ถึงสก็อตแลนด์หรือเวลล์แล้วละก็หมดกัน เรียนสำเนียงกันเพิ่มอีกอย่างได้เลย แต่ผมชอบนะมีเสน่ดี เทียบได้กับสุพรรณบ้านเรา และที่สำคัญคนต่างเมืองของอังกฤษเป็นมิตรสุดๆ ผมไปถามทาง ก็แทบจะจูงมือเดินพาไป เทียบไม่ได้กับเมื่อครั้งหนึ่งไปถามเจ้าหน้าที่ใน Tube ที่ลอนดอน เรามองหน้าถามเสร็จดันไม่ตอบ แถมหันหลังให้เฉยเลย พอเอามือไปสะกิดชายเสื้ออีกคนที่แกล้งๆ หันหลังอยู่ใกล้ๆกัน ก็หันมาแว๊ดลั่นใส่เราว่าไม่มีมารยาทไม่ควรไปโดนตัวเขา …ก็ได้ประสบการณ์จากคำว่า Culture ช็อคกันไป (คิดในใจว่ามาเมืองไทยละ ฮึ่ม …จะแช่งให้เจอแท็กซี่พาขี่วนเที่ยวเมืองบางกอกเสียให้เข็ด)
พอได้เรียนที่เมืองใดก็ตาม ถ้าอยากไปเที่ยวลอนดอนก็สะดวกมาก เพราะรถไฟที่นั่นเร็วมาก ตามเวลาเป๊ะๆ ทำตั๋วระยะยาวไว้หรือใช้สิทธิ์นักเรียน จะเสียค่าบริการสาธารณะอะไรก็ถูกกว่าชาวบ้าน(อันนี้อเมริกาก็น่าจะมี) ผมเข้าลอนดอนเดือนละครั้ง ไปลั้นลากับน้องสาวที่เรียนการโรงแรมที่ลอนดอน เราสองคนพ่อแม่จ่ายให้ได้แค่ค่าเรียน ส่วนค่ากินอยู่และที่พักต้องหาเอาเอง น้องสาวบังเอิญว่าหน้าตาดี ร้านอาหารไทยก็เอ็นดูให้งานทำพาสไทม์สม่ำเสมอ เขาอนุญาติให้นักเรียนทำงานได้สัปดาห์ละไม่เกินยี่สิบกว่าชั่วโมง แค่นั้นก็อ๊วกแล้วถ้าจะเรียนปริญญาโทไปด้วย ถ้าจะไปหางานทำจริงๆ แนะนำว่าตอนเรียนภาษาฯ ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย และช่วงปิดเทอมให้จัดเต็มเลย รับรองว่าเก็บเงินได้มากแน่ๆ และอาจจะมากพอที่จะใช้เป็นปี ถ้าประหยัดและอดออมเป็นนะ ส่วนมากได้เงินมาก็ซื้อเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวหมด แล้วก็เขียนจดหมายอ้อนพ่อแม่ให้ส่งเงินต่อชีวิตในแต่ละช่วง พ่อแม่ก็ดิ้นรนกันไป สมัยน้องสาวผมเรียนภาษาฯ ได้เต็มอัตราศึก วีซ่าต่อแล้วต่ออีกได้ถึงสองปีเต็ม เก็บเงินไว้พอควรแล้วจึงขยับไปเรียนมหาวิทยาลัย อยู่อังกฤษเบ็ดเสร็จเกือบห้าปีได้ภาษามาเต็มที่ ไต่จากเซลล์ธรรมดาเป็นจีเอ็มโรงแรมหรูห้าดาว
ไปเรียนอังกฤษมีประหยัดกว่านั้นอีก ถ้าอยู่นอกกรุงลอนดอนและเรียนปริญญาโทบางสาขาที่จบแค่ปีครึ่ง เช่น พวกสาย Art ผู้เขียนโชคดีว่าเรียนสาขานี้ ไม่งั้นไม่มีปัญญาจ่ายค่าเล่าเรียนแน่นอน ค่าเรียนตอนนั้นปีละห้าพันปอนด์ ปีครึ่งก็เจ็ดพันห้าร้อยปอนด์ (Postgraduate คอร์สสำหรับคนทำงานแล้ว) เบ็ดเสร็จค่าเรียนไม่ถึงสี่แสน ถ้านับค่าเรียนภาษาหกเดือนตอนช่วงแรกก็สี่แสนเป๊ะพอดี ผู้เขียนไปเรียนแล้วจบโทกลับมาจ่ายไปหนึ่งล้านบาทพอดี รวมทุกอย่าง ดังนั้นถ้าจะพูดถึงการต่อโทสาขาที่ค่าเล่าเรียนและเวลาเรียนสั้นสุด ถูกสุดประมาณนี้ในทุกวันนี้ รวมค่าเครื่องบินไปกลับ ค่าเรียน ค่าที่พัก ค่ากินอยู่ เอาเป็นว่ารวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเลยละกัน จบกลับมาจ่ายทั้งหมดประมาณล้านกว่าบาทครับ ไม่ถึงสองล้าน ย้ำ…ไม่ถึงสองล้านบาท ไม่ต้องทำงานเลยยังได้ แต่ต้องประหยัดเป็นนะครับ พยายามขอหอพักของมหาวิทยาลัยให้ได้ บางแห่งจะให้สิทธิ์เฉพาะคนไปเรียนปริญญาตรี เพราะถูกกว่าข้างนอกแน่นอน และหากเดินไปเรียนได้ก็ประหยัดขึ้นอีกเยอะเลย พวกนี้ต้องวางแผนดีๆนะครับ (ค่าเทอมจะปรับขึ้นสูงเรื่อยๆ ในแต่ละปี ต้องเปรียบเทียบให้ดี จะเทียบของเก่าที่ยกตัวอย่างมาไม่ได้นะครับ แค่อยากให้เห็นภาพ และเชื่อว่าเศรษฐกิจทั่วโลกก็ต้องปรับตามเช่นกันครับ) ส่วนอาหารก็ไม่ถึงกับคลุกข้าวกินกับเกลือ หรือกับไข่ทุกวัน แค่ต้องหัดทำกับข้าวเองได้ หุงข้าวเอง หม้อไฟฟ้าใบเล็กๆ 2-3 ร้อยบาทจะช่วยชีวิตให้ง่ายขึ้นเยอะเลย ซื้อเนื้อหมูหรือเนื้อที่ชอบๆ มาแช่แข็งไว้ หั่นผัดกับผัก สลับใช้เครื่องปรุงสำเร็จของไทยที่มีขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตในไชน่าทาวน์ที่มีแทบทุกเมือง เครื่องครัว ผักไทยวางขายจนแทบอยากจะโกยซื้อให้หมดร้าน พอดูราคาก็รีบวางแบบไม่ต้องคิดมาก อยู่แบบนี้ละครับ ตามประสานักเรียนนอกแบบที่คนเขาชอบว่ากัน ไม่นานก็คล่อง คนอังกฤษก็ชอบทำแกงราดข้าวขายถูกๆ ก็อย่าไปซื้อกินเชียว พอกินแล้วก็รู้ว่าส่วนใหญ่จะใช้เครื่องเทศของอินเดีย กลิ่นฉุนสุดๆ แม้แต่ข้าวเปล่าๆ ยังมีกลิ่นฉุนแปลกๆ (รู้ทีหลังว่าเป็นข้าวมาจากเม็กซิโก) ส่วนบางคนที่บอกว่าอังกฤษอากาศอึมครึมหนาวก็หนาว เชยไปแล้วละครับ เดี๋ยวนี้หน้าร้อน ร้อนกันตับแตก ฝรั่งถอดเสื้อเดินกันกระจาย ส่วนหน้าหนาวละก็ หนาวได้ใจแน่ๆ ไปอังกฤษแล้วไม่ชอบอากาศหนาว ไม่ชอบหิมะ ก็อย่าไปเลยครับขอร้อง ส่วนตัวผมชอบมาก เดินทั้งวันหาเหงื่อสักหยดก็ไม่มี ยีนส์ใส่แล้วสลัดๆพาดฮีตเตอร์ไว้ ใส่ได้อีกหลายครั้ง ยังหอมชิวๆ…ห้ามลองที่เมืองไทยนะครับ กลิ่นไม่ดีมีแน่นอน
อังกฤษไปง่ายมาง่าย ตั๋วเดือนซื้อไว้จบเลย ใช้ได้ทั้งรถเมล์รถไฟ แถมได้ราคานักเรียนลดสุดๆ อเมริกาประเทศเขาใหญ่เดินทางทีนึงก็ไกลหน่อย ไปใหนทีถ้ามีรถเองก็สบาย ไม่งั้นได้รอรถเมล์กันยาวๆ ถ้าตกรถทีก็เตรียมนั่งง่อยกันเลย กรณีพ่อแม่พี่น้องจะไปเยี่ยมที่อังกฤษ ก็สามารถพาไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านได้แบบในราคาสุดประหยัด แถบยุโรปไปได้ทั่วแบบสบายกระเป๋าตังส์ เพราะตั๋วค่ารถทัวร์(Coach)ที่นั่น มีทั้งแบบไปเองกลับเองในช่วงเวลาที่กำหนด ซื้อที่พักแยก หรือจัดทัวร์พร้อมที่พักสามดาว ถูกกว่าค่าทัวร์จากไทยแบบฟ้ากับเหว ที่พักอาหารคุณภาพใช้ได้เลยทีเดียวเพราะแข่งขันกันเยอะยังกะทัวร์อ่าวนางแถวบ้านเรา ผู้เขียนพาแม่ไปมาแล้ว 6 ประเทศ จำไม่ได้ว่ากี่วัน แต่ราคาต่อหัวพอๆ กับค่าทัวร์แค่ฮ่องกงที่เดียวเลยละ
ก็น่าจะครอบคลุมหลายส่วนที่มีบางท่านถามไถ่มา ถ้าสงสัยถามข้างล่างต่อได้เลย ยินดีให้ข้อมูลนะครับ ผมให้ไอเดียได้แต่เฉพาะของผมนะครับ ส่วนถ้าอยากได้ความเห็นหลากหลายก็ต้องไปตั้งกระทู้ที่ห้องไกลบ้าน พันทิพ หรือค้นหาใน google ก็ได้ครับ…ผมก็ทำเช่นนั้นมาก่อน