ชื่อหัวเรื่องหรูหราไปหน่อยอาจจะเข้าใจยาก ขออธิบายนิดนึงนะครับ วันนี้จะมาให้คำแนะนำคนทำงานรุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะเพิ่งเข้าทำงานปีแรกๆ ว่าควรจะคิดถึงเรื่องอะไรบ้าง? คำว่า “คว้าดาว” เป็นคำยอดฮิตในวงการโฆษณา ความหมายคงไม่ต่างจากที่ทุกท่านเข้าใจ นั่นคือการมุ่งมั่นไปให้ถึงจุดหมาย เท้าเปื้อนดิน ก็ต้องแลกมากับความเพียรพยายามที่ตัวเราต้องต่อสู้ชนิดไม่กลัวเหน็ดเหนื่อยหรือทำงานแบบมักง่ายจนเกินไป
ผู้เขียนได้รับมอบหมายจากเจ้าของบริษัทฯ ให้เป็นผู้คัดและสัมภาษณ์คนเข้าทำงานในบริษัท พบว่ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ ก็ผลิตนักศึกษาที่มีคุณภาพในการทำงานค่อนข้างดีต่างกันอยู่บ้าง สิ่งที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคืออุปนิสัยใจคอและความอดทน ดังนั้นการได้งานทำ ไม่ควรตามมาด้วยการเลี้ยงฉลองเท่านั้น แต่ควรตามมาด้วยการเตรียมตัวเองให้พร้อม เสมือนการเตรียมตัวเตรียมใจเพื่อเข้าบวชเรียนของผู้ชาย เมื่อสึกออกมาก็ถือว่าเป็น”คนสุก” แล้ว คือมีความรู้ความเข้าใจในการใช้ชีวิตที่ดีแล้วนั่นเอง
ทุกครั้งที่ผู้เขียนเป็นได้มีโอกาสพูดคุยกับน้องใหม่เหล่านี้ ก็มักจะคำพูดว่า… “พี่ไม่ใช่ญาติ พี่ไม่ใช่พี่แท้ๆ ของพวกนายนะ แต่บอกตรงๆว่าถ้าทำงานแล้วเกิดพบว่าไม่ชอบหรือมีที่อื่นดีกว่า เช่นเงินเดือนเยอะกว่า ตำแหน่งใหญ่ขึ้น …เอ็งไปเลย…แต่ต้องแบบได้ประโยชน์กับตัวจริงๆ นะ ไม่ใช่โดนหลอกให้ไป แล้วไปเจอจระเข้อีกตัว บริษัททุกแห่งเขาก็ควรรักษาผลประโยชน์ให้เท่าที่ทำได้อยู่แล้ว พี่แค่ให้คำแนะนำไว้ก่อนในฐานะรุ่นพี่ บริษัทรับคนใหม่แปลว่ามีการลงทุน เสียเวลาคนทำงานเป็นแล้วมาสอนคนใหม่ๆ พี่ทำงานบริษัทแรก พี่ประกาศเลยว่าจะทำอย่างน้อย 3 ปี เพื่อตอบแทนบุญคุณที่รับเราเข้าทำงานครั้งแรกในชีวิต ให้โอกาสเรา หลังจากนั้นแล้ว ขอเป็นตัวเราที่จะคิดจะทำอะไรหรือไปที่ใหน”
พูดๆไปบางคนก็เริ่มหาวนอน บางคนก็ยังทำหน้างงๆ ว่าพี่คนนี้กำลังพูดอะไรหว่า? การเป็นคนพูดตามที่ใจคิด สอนคนแบบเปิดใจแบบนี้ บางครั้งก็ใช้ไม่ได้กับคนรุ่นใหม่ๆ ตามันอยู่กับเรา แต่ใจมันอยู่ตรงใหนก็ไม่รู้ เพราะส่วนใหญ่สมาธิมันสั้น
“…พี่เห็นหลายคนทำงานปีเดียว แล้วเปลี่ยนที่ทำงานเพื่ออัพเงินเดือน อัพเกรดตัวเอง ปีต่อไปก็ทำใหม่ เพราะมีคนชวน ย้ายไปเรื่อย น้อยคนที่ไปได้ดีจริงๆ นึกถึงคนที่ยังไม่มีโอกาสแบบคุณ ถ้าเป็นผมนะ เสียเงินให้บริษัทผมก็ยังยอม เพราะมันคือการลงทุนในการได้วิชาชีพของแท้ติดตัวไปเพื่อทำงานของจริง เป็นแล้ว เก่งแล้ว ไปใหนใครก็อยากได้ “
“บริษัททุกแห่งอยากให้พนักงานรักบริษัท ยอมรับตรงๆ ความรักมันสร้างกันไม่ได้ คุณจะรักเพราะอาจจะมีเพื่อนๆดี สังคมดี งานดี เงินดี มีโบนัสตามสมควร มันเป็นเรื่องปกติ หากบริษัทมีลูกเล่นลูกฮาว่าจะขึ้นเงินเดือนให้ ทั้งๆที่คุณก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ พอถึงวันแต่กลับเปลี่ยนใจไม่ให้ ถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้น อย่าว่าแต่คุณจะไปเลย …ผมก็จะไป… เพราะคนพูดไม่จริง ไม่ควรคบหาอย่างยิ่ง”
“สรุปสั้นๆว่า ถ้าคุณอยากคว้าดวงดาวมาเชยชม ต้องลงทุนลงแรงหน่อย หากคิดง่ายทำง่าย ทำงานแบบรู้ไม่จริง พอโตแล้วอยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆก็ยากเลยละ คงต้องไปเล่นเกมส์การเมืองในบริษัท เหยียบคนไปเรื่อย ใส่หน้ากากหลอกกัน มันไม่น่าภาคภูมิใจเท่ากับการทำด้วยตัวเอง เห็นพัฒนาการของเรา จากหนึ่งไปสอง สองไปสาม…อย่าหยุด เราจะเป็นคนเก่งตัวจริง ถึงจุดนั้นแล้ว ผมกล้าเอาคอรับประกันเลยว่า…คุณไม่ต้องไปวิ่งหางานดีๆที่ใหน มันจะวิ่งมาหาคุณเอง“